หุ้นที่มี Fundamental Score เกิน 80 (จากคะแนนเต็ม 100) คือ มีคะแนนเชิงคุณภาพของหุ้นดีมาก (โดยใช้การมองปัจจัยพื้นฐานจากงบการเงิน เช่น NPM, ROA, ROE, DE ratio เป็นต้น)

หุ้นที่มี Technical Score เกิน 80 (จากคะแนนเต็ม 100) คือ มีจังหวะการเข้าซื้อ/ขายหุ้น (โดยใช้แนวโน้มด้าน Technical Indicator ต่างๆ ทั้ง EMA, SMA, RSI, MACD, รวมถึง สภาพคล่องของหุ้น เป็นต้น) โดยลูกค้าสามารถดูกราฟสถิติเพิ่มเติมได้โดยถ้าหากกราฟ Technical Score ย้อนหลังสามารถยืนเหนือ 80 คะแนนขึ้นไปเกิน 5 วัน หุ้นจะมีแนวโน้ม ที่ยืนราคาได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ในมุมของปัจจัยพื้นฐาน ผู้ใช้งานยังสามารถดูสีของดอกซากุระเพิ่มเติมได้อย่างง่าย โดย สีเขียว คือ มีจังหวะในการซื้อ, สีส้ม รอจังหวะในการซื้อหรือขาย และ สีแดง คือ จังหวะในการขาย

เป็นหน้าแสดงข้อมูลโดยรวมทั้งหมด ตั้งแต่ Portfolio ของลูกค้า, หุ้นแนะนำประจำวัน, หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี, หุ้นที่มีปัจจัยเทคนิคดี รวมถึง Market Trend ว่าเป็น Uptrend, Downtrend หรือ Sideway

ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินความเสี่ยงและปรับกลยุทธ์ได้ตามความเหมาะสมของนักลงทุน ด้วยอัตราส่วนความน่าจะเป็นของตลาดในรูปแบบต่างๆ

เป็นเมนูสำหรับการค้นหาหุ้นสุขภาพดี โดยแยกตาม ดัชนี SET100 และ MAI รวมถึงแยกตาม Technical Socre ในดัชนี SET กับ MAI และ แยกตาม Technical Indicator ต่างๆเช่น MACD, RSI และ RSI<30

ดัชนี SET 100 และ MAI ระบบจะเรียงหุ้นที่มีคะแนน Fundamental Score และ Technical Score รวมมากที่สุดขึ้น โดยเรียงจากคะแนนรวมมากสุดไปน้อยสุด

SET Technical และ MAI Technical จะเป็นการคัดหุ้นในดัชนี SET และ MAI ที่คะแนนปัจจัยพื้นฐานมากกว่า 50 และ คะแนนปัจจัยเทคนิคมากกว่า 85 โดยเรียงลำดับด้วยคะแนนปัจจัยเทคนิคดีที่สุด

สำหรับเหล่า Technical Indicator จะเรียงหุ้น (ในทุกดัชนี) โดยเรียงตาม หุ้นที่มีคะแนน Technical Indicator นั้นๆมากที่สุด

เป็นเมนูในการค้นหาหุ้นคุณภาพดี โดยระบบจะทำการหาหุ้นโดยอัตโนมัติซึ่งแสดงระดับของคุณภาพออกมาเป็นคะแนน Fundamental Score (การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน) และมี 5 เมนูย่อยคือ

- iGrowth จะเรียงหุ้นที่มีการเติบโตสูงและมีสภาพการเงินที่ดี

- iGood จะแสดงหุ้นที่มีสถานะการเงินดีเยี่ยมและมีการเติบโตพอใช้

- iDividend จะแสดงหุ้นที่ให้ปันผลดีอย่างสม่ำเสมอ โดยมีผลกำไรและสภาพการเงินในระดับปานกลาง

- iRookie จะแสดงหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด และมีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรเติบโตได้ดี

- iTurnaround จะแสดงหุ้นที่มีผลกำไรพลิกฟื้นปรับตัวดีขึ้น โดยมีโอกาสเติบโตสูงและมีสภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น

เป็นเมนูในการค้นหาหุ้นโดยอ้างอิงจากสัญญาณทางเทคนิค โดยใช้แนวโน้ม Indicator ต่างๆ ทั้ง EMA, SMA, RSI, MACD, รวมถึง สภาพคล่องของหุ้น เป็นต้น ในการหาหุ้นให้อัตโนมัติโดยจะมี 3 เมนูย่อยคือ

- ALL TIMINGS จะเรียงหุ้นมีคะแนน Technical สูงที่สุดในทุกๆ indicators รวมกัน มาแสดงเป็นอันดับแรก โดยจะไม่สนใจคะแนน Fundamental Score

- SOCIAL จะเรียงลำดับหุ้นจากคะแนนค่า Social Score สูง หรือ หุ้นที่กำลังเป็นที่สนใจ Social Media หรือกระแสสังคมมากที่สุด

- STOCHASTIC จะจัดลำดับหุ้นตาม indicator Stochastic Oscillator โดยหุ้นที่มีจังหวะเข้าซื้อที่ดีที่สุดโดย indicator นี้ จะถูกจัดลำดับไว้ด้านบนสุด

จะสรุปภาพรวมมูลค่าพอร์ทการลงทุน (Portfolio Value) โดยให้เห็นประวัติการลงทุนย้อนหลัง (มากสุด 90 วัน), สัดส่วนของการลงุทนโดยแยกเป็น หุ้น และ อุตสาหกรรมของหุ้นที่มีอยู่ นอกจากนี้ ยังแสดง Performance ของหุ้นที่เรามีอยู่รวมถึงบอกคุณภาพปัจจุบันของหุ้นเหล่านั้น

ให้ลูกค้าสามารถค้นหาหุ้นเป็นรายตัวตามความต้องการอย่างละเอียดโดยการกำหนดค่า filter ต่างๆ เช่น ใส่ชื่อหุ้น หรือ จะกำหนดคะแนน Fundamental และ Technical Score (รวมไปถึงข้อมูลอื่นๆเช่น PE, ROA, ROE GPM, Volume และอื่นๆ) เพื่อให้ระบบหาข้อมูลมาให้นักลงทุนได้อย่างง่ายดาย โดยระบบจะแสดง Action และ Detail ของหุ้นที่ค้นหาพบเพื่อให้ง่ายในการคัดเลือกหุ้นที่โดนใจด้วยเช่นกัน

เป็นเมนูเพื่อค้นหาหุ้นด้วยสูตร Magic Formula ที่ถูกคิดค้นโดยกูรูผู้เชี่ยวชาญการลงทุน โจเอล กรีนแบล็ต ซึ่งจะหาหุ้นคุณภาพสูงในราคาย่อมเยา โดยอ้างอิงจากสองตัวแปร คือ หุ้นที่มีราคาถูก และ หุ้นที่มีผลตอบแทนเงินลงทุนสูง เป้าหมายของ Magic Formula คือ การหาบริษัทที่มีคุณภาพในราคาที่ย่อมเยา

โดยหุ้นตัวแรกจะเป็นหุ้นที่ดีที่สุดจากสูตรนี้ (ถูก PE ต่ำ และ กำไรดี ROE / ROA / ROIC สูง)