GPSC รายงานกำไรสุทธิ 2Q68 เติบโต 41% YoY อยู่ที่ 2,019 ล้านบาท ผลจากการรับรู้เงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น ในโครงการ CFXD และ AEPL ซึ่งเกิดจากการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และ การรับรู้รายได้ทางภาษีซึ่งบริษัทรับรู้เป็นขาดทุนในปี 64 ซึ่งช่วยหักกลบการหดตัวของผลประกอบการตามช่วง Low Season ของธุรกิจไป ในส่วนของ รายได้จากการดำเนินงาน ลดลง 7% YoY อยู่ที่ 22,476 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.รายได้จากโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ(IPP) ลดลง 17% YoY อยู่ที่ 5,581 ล้านบาท โดยหลักเป็นผลจากตามการเรียกรับไฟฟ้าจาก กฟผ. ที่ลดลงของโรงไฟฟ้าศรีราชา, โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันมีรายได้ลดลงตามค่าความพร้อมจ่ายลดลงเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า และ ค่าพลังงานไฟฟ้า(EP) ลดลงตามราคาถ่านหิน ,2.รายได้จากโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP) ลดลง 2% YoY อยู่ที่ 16,495 ล้านบาท ผลจาก ปริมาณขายไฟฟ้าให้ กฟผ.ลดลงจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ GSPP3 กับ กฟผ. หมดอายุในเดือน ส.ค.67 และ มี.ค.68 ประกอบกับปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้ำให้แกลุกค้าอุตสาหกรรมลดลงตามการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของลูกค้า และ ค่า Ft และ ราคาก๊าซธรรมชาติลดลงส่งผลให้ราคาขายลดลงตามการคิดราคาขายแบบส่งผ่านต้นทุน และ 3.รายได้จากโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) ลดลง 17% YoY อยู่ที่ 400 ล้านบาท ตามรายได้การออกแบบก่อสร้าง(EPC) ของ CHPP และ รายได้ขายน้ำเย็น ที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้น(GPM) ไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 22.79% ลดลงจากระดับ 23.64% ในช่วง 2Q67 เนื่องจากการปรับตัวลดลงของค่า Ft ส่งผลต่อราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ย และ ความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและร่วมค้าไตรมาสนี้ อยู่ที่ 584 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุน 43 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามการรับรู้กำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของ CFXD ,การรับรู้รายได้ทางภาษีของ AEPL และ ผลประกอบการที่ดีขึ้นของ XPCL ตามปัจจัยฤดูกาล