ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนลบเพื่อจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและการปรับเพิ่มขึ้นของ Bond Yield สะท้อนว่านักลงทุนคาดว่า Donald Trump จะชนะการเลือกตั้งซึ่งจะส่งผลให้เกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนเงินเฟ้อ
ดัชนี Dow Jones ปิดในแดนบวก แต่ S&P500 และ Nasdaq ยังปิดในแดนลบ หลังระหว่างวันได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้น Nvidia (NVDA) ก่อนปิดลบ 1% หลังยังได้รับแรงกดดันจากการที่บริษัทได้รับหมายเรียกจาก The US Department of Justice ต่อประเด็นการครอบงำตลาด Chip
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อ โดย Dow Jones ยังปรับตัวขึ้นทำ Record High ต่อ แม้นักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประกอบการของ Nvidia ในช่วงวันนี้ โดยยังมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญที่ออกมาดีกว่าที่คาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนลบ หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตลอด 8 วันก่อนหน้า โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นในกลุ่ม Energy บวกกับการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูรายละเอียดในการประชุมที่ Jackson Hole
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง โดยแรงขายสำคัญมาจากแรงขายในหุ้น Tesla (TSLA) หลังผลประกอบการล่าสุดออกมาแย่กว่าที่คาดจากความต้องการ EV ที่ลดลงและมี Margin ที่อ่อนแอลง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยเฉพาะ S&P500 ที่ปรับตัวทำ All Time High ต่อเนื่องจากความเห็นของประธาน FED ที่กล่าวถึงความเสี่ยงในการคงดอกเบี้ยไว้นานเกินไป ทำให้นักลงทุนยังคาดว่า FED จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยเฉพาะดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำ All time high โดยสัปดาห์นี้จะเริ่มเข้าสู่การประกาศผลประกอบการ เริ่มจากกลุ่มธนาคารในช่วงวันศุกร์นี้
ดัชนี Dow Jones ปิดในแดนลบ ในขณะที่ S&P500 และ NASDAQ ปิดในแดนบวกจากการได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นอย่าง Paramount Global (PARA) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 11% หลังมีรายงานว่า Shari Redstones National Amusements บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการขายสัดส่วนของ Movie Studio แก่ David Ellisons Skydance Media
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยเฉพาะ S&P500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำ New High ในขณะที่ Nvidia (NVDA) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% ได้หนุนให้ Market Cap ทะลุ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดแซงหน้า Microsoft ไปแล้ว
ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Dow Jones ปรับตัวลดลง หลังเกิดแรงขายหุ้นในกลุ่ม Energy จากการปรับฐานลงของราคาน้ำมันดิบ โดยมีแรงขายในหุ้นอย่าง Halliburton Company (HAL), Diamondback Energy Inc (FANG) และ Baker Hughes Co (BKR)
ดัชนี Dow Jones ปิดในแดนลบ ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยเฉพาะ Nasdaq ที่ปิดทำ All time high โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Technology นำโดย Nvidia(NVDA) ที่จะมีการประกาศผลประกอบการในวันพุธนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะดัชนี S&P500 ที่ใกล้แตะระดับ 5,000 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่ผลประกอบการแข็งแกร่งอย่าง Ford Motor Company (F) ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวกต่อ หลังได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม Energy จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความรุนแรงใน Red Sea แม้สหรัฐฯจะประกาศเข้าปกป้องบริเวณดังกล่าว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อ หลังเข้าใกล้เทศกาล Thanksgiving Day โดยังคงมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม Technology อย่าง Google (GOOGL), Microsoft (MSFT) และ Meta (META)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมาจากการที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯทยอยปรับตัวลดลง แต่มีการลดช่วงบวกในท้ายตลาด หลัง Bond Yield เริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังยังคงได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Bank ที่ผลประกอบการออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้ง Bank of America (BAC) ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 4% หลังผลประกอบการไตรมาส 2 เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อ หลังมีแรงซื้อหนุนจากหุ้นกลุ่ม Energy และ Technology โดยเฉพาะกลุ่ม Energy หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเริ่มเห็นสัญญาณการลดกำลังการผลิตลงต่อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงอีกครั้ง โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายในหุ้นกลุ่ม Energy ทั้ง Exxon Mobil Corp (XOM), Chevron Corp (CVX) และ Halliburton Company (HAL)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยนักลงทุนต่างรอดูผลการเจรจาเพื่อยกระดับเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Joe Biden และ House Speaker จากฝั่ง Republican นาย Kevin McCarthy
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงและปิดในแดนลบ หลัง การเจรจาเพื่อขยายเพดานหนี้ที่เริ่มมีปัญหาอีกครั้ง หลังกลุ่ม GOP(Grand Old Party) ของพรรค Republican มีการ Walk Out จากการเจรจา
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวในกรอบแคบรับประเด็นการเข้าซื้อกิจการ First Republic Bank โดย JP Morgan Chase หลังจากที่ First Republic Bank กลายเป็นธนาคารสหรัฐฯอันดับที่ 3 ต่อจาก SVB และ Signature Bank ที่เข้าสู่ภาวะล้มละลายและถูกเข้าควบคุมกิจการโดย FDIC
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวก โดยมีเพียง Dow Jones ที่พักฐานลง หลังจากที่โดนแรงขายกดดันจาก Johnson & Johnson (JNJ) ที่ปรับตัวลงกว่า 2.8% จากผลประกอบการที่ผิดหวัง หลังได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิต
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หลังความกังวลต่อปัญหาสภาพคล่องของธนาคารเริ่มลดลง โดยมีแรงซื้อหุ้น First Republic Bank (FRC) หนุนให้ปรับตัวขึ้นกว่า 29.47%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง หลังได้รับประเด็นบวกจากการที่กลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐฯตัดสินใจที่จะร่วมฝากเงินให้กับ First Republic Bank กว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลงไปกว่า 40% ในช่วงก่อน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังจากที่ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของสหรัฐฯและมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทใน Silicon Valley ประสบภาวะล้มละลาย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงต่อ โดยได้รับแรงกดดันจากความเห็นของประธาน FED สาขา St. Louis นาย James Bullard ที่แสดงความเห็นต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่ยังคงต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบ จากแรงขายในหุ้นกลุ่ม Health Care และ Energy อย่าง DexCom (DXCM), Baxter International Inc (BAX) และRegeneron Pharmaceuticals Inc (REGN) ที่ปรับตัวลงกว่า 5%