REIT Focus

02
พฤศจิกายน
2020
08
กันยายน
2020
Reit Focus : September 2020
(views 330)
แม้บรรยากาศภาพรวมจะผ่อนคลายขึ้นจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวหลังคลายมาตรการ Lockdown และความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามจากทั้งสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่ตึงเครียด และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด ไทยยังพบผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย ทำให้การกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอยังเป็นทางเลือกที่ดี โดยแนะนาเลือกลงทุนในกองทุนที่มีสินทรัพย์คุณภาพ ได้รับผลกระทบจากัดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ อาทิ โรงไฟฟ้า, โทรคมนาคม, คลังสินค้า และออฟฟิตให้เช่าที่มีอัตราการเช่าสูง 90-100% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายทั่วโลก รวมถึงไทย ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีล่าสุดอยู่ที่ 1.49% หากเทียบกับคาดการณ์อัตราเงินปันผลของกองทุน REIT ที่เราแนะนาราว 7.3% จะทำให้ Yield Gap อยู่ในระดับจูงใจ 5.8%
อ่านเพิ่มเติม
07
กรกฏาคม
2020
Reit Focus : July 2020
(views 430)
การทยอยเปิดเมืองในหลายประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม อาจเป็นการเพิ่มโอกาสติดเชื้อ COVID-19 มากขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดรอบที่ 2 โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ธปท.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2020 เป็น -8.1% จากเดิมคาด -5.3% รวมถึงเดือนก.ค. เริ่มเข้าสู่การประกาศผลประกอบการ 2Q20 ของ Real Sector อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสื่อสาร ที่มีแนวโน้มไม่สดใส ประเมินว่าหดตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลงต่อเนื่อง หรือทรงตัวในระดับต่ำ ปัจจุบันอยู่ที่ 0.50% ต่อปี ต่ำสุดในประวัติการณ์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางต่างประเทศที่ดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน และมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ทำให้การกระจายการลงทุนในกอง REIT เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
อ่านเพิ่มเติม
01
มิถุนายน
2020
05
พฤษภาคม
2020
02
มีนาคม
2020
Reit Focus : March 2020
(views 600)
ตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกปรับลงรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. 2020 กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากจีน และขยายเป็นวงกว้างทั่วโลก จากจำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่มีความแน่นอนในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี คาดประเด็นดังกล่าวหนุนให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย โดยภายใน 1 เดือน SET index ปรับลงถึง 12% เทียบกับดัชนี REIT ปรับลง 7% นอกจากนี้ ภาวะดอกเบี้ยนโยบายไทย ล่าสุดอยู่ที่ 1.00% ต่อปี เป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ และคาดมีโอกาสปรับลงอีกในอนาคต จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลของกอง REIT ที่ 5.9% ต่อปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ 1.09% จะได้ Yield Gap สูงถึง 4.8% เราจึงมองว่าจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมกอง REIT โดยแนะนำเลือกกองที่มีสินทรัพย์สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาว และได้รับผลกระทบจำกัดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน, อาคารสำนักงาน เป็นต้น อย่าง EGATIF, QHPF, DIF, AIMIRT, JASIF ซึ่งคาดจ่ายเงินปันผลมากกว่า 6% ต่อปี
อ่านเพิ่มเติม
03
กุมภาพันธ์
2020
02
ธันวาคม
2019
Reit Focus : December 2019
(views 637)
ปัจจัยในประเทศยังเอื้อต่อการลงทุนใน REIT การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 6 พ.ย. 2019 ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี ตามที่ตลาดคาด รวมถึงเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนสถานการณ์โลกยังมีความไม่แน่นอน หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยืดเยื้อ ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามอนุมัติกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง สร้างความไม่พอใจให้กับจีน และต่อมาทางการจีนออกแถลงการณ์ว่าจีนอาจจะใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงกับสหรัฐ ซึ่งความตึงเครียดของสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้หลายประเทศมีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธนาคารกลางส่วนใหญ่ดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง เราจึงมองว่าการลงทุน REIT ยังเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการกระจายความเสี่ยง จากผลตอบแทนปันผลจูงใจที่คาดเฉลี่ย 6% ต่อปี รวมถึงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งหากพิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลของกอง REIT และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ 1.61% จะได้ Yield Gap สูงถึง 4.2%
อ่านเพิ่มเติม
04
พฤศจิกายน
2019
Reit Focus : November 2019
(views 683)
วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.25% จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี กระทบต่อการส่งออก นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกประเทศยังมีความไม่แน่นอน ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความคืบหน้าของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ช่วยหนุนความน่าสนใจของ REIT ในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนปันผลจูงใจ เฉลี่ย 6% ต่อปี และความผันผวนต่ำ ซึ่งหากพิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลของกอง REIT และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ 1.53% จะได้ Yield Gap สูงถึง 4.4% ดังนั้น เรายังมองว่าการกระจายการลงทุนในกอง REIT เป็นทางเลือกที่ดีท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
อ่านเพิ่มเติม
07
ตุลาคม
2019
Reit Focus : October 2019
(views 487)
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, สถานการณ์ BREXIT และสัญญาณการชะลอตัวของภาคการผลิตในสหรัฐฯ และยูโรโซน จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทยที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 25 ก.ย. 2019 ได้ปรับลดประมาณการอัตราขยายตัวด้านเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ลงเหลือเติบโต 2.8% ต่อปี จากเดิม 3.3% ซึ่งเป็นการปรับลดลงเป็นครั้งที่ 4 แม้กนง.มีมติเอกฉันท์ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% แต่กระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้ และธนาคารกลางส่วนใหญ่ดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น อาจเป็นแรงกดดันให้กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อ REIT ในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนปันผลจูงใจ เฉลี่ย 6% ต่อปี และความผันผวนต่ำ ซึ่งหากพิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลของกอง REIT และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ 1.45% จะได้ Yield Gap สูงถึง 4.4% ดังนั้น เรายังมองว่าการกระจายการลงทุนในกอง REIT เป็นทางเลือกที่ดีท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
อ่านเพิ่มเติม
02
กันยายน
2019
Reit Focus : September 2019
(views 533)
ปัจจัยสนับสนุนเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนกอง REIT ยังมีต่อเนื่อง ดังนี้ 1) วันที่ 7 ส.ค. 2019 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.5% ด้วยมติเสียงส่วนใหญ่ 5 ต่อ 2 เสียง ซึ่งไปในแนวทางเดียวกับธนาคารกลางส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น 2) เริ่มเก็บภาษีจากการลงทุนในตราสารหนี้ของกองทุนรวม อัตรา 15% ตั้งแต่ 20 ส.ค. 2019 3) Bond Yield ของไทยอยู่ในระดับต่ำ หากพิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์ผลตอบแทนปันผลปี 2019 ของกอง REIT ที่เฉลี่ย 5.6% ต่อปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ณ วันที่ 30 ส.ค. 2019 ลดลงสู่ระดับ 1.5% ทำให้ Yield Gap ขยายตัวสูงที่ 4.1% 4) ทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยมีแนวโน้มชะลอตัว 5) ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างประเทศ ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งวานนี้ (1 ก.ย.) สหรัฐและจีนได้เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้ารอบใหม่ โดยรัฐบาลสหรัฐเริ่มเก็บอัตราภาษี 15% จากสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนเริ่มเก็บอัตราภาษี 5% สินค้านำเข้าจากสหรัฐ มูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการเมืองในอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวของออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งประเด็นเหล่านี้ล้วนช่วยหนุนให้มีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนมากลุ่มที่มีความผันผวนต่ำ และให้ปันผลสูงเพิ่มขึ้น
อ่านเพิ่มเติม
05
สิงหาคม
2019
Reit Focus : August 2019
(views 668)
ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และธนาคารกลางส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ มีปัจจัยสนับสนุนจากการเริ่มเก็บภาษีตราสารหนี้ในเดือนนี้ ทำให้ REIT ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนปันผลดี และความผันผวนต่ำ หากพิจารณาผลต่างระหว่างคาดการณ์ผลตอบแทนปันผลปี 2019 ของกอง REIT ที่เฉลี่ย 5.6% ต่อปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีที่ 1.8% จะได้ Yield Gap อยู่ที่ 3.8% ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ
อ่านเพิ่มเติม
01
กรกฏาคม
2019
Reit Focus : July 2019
(views 566)
SET INDEX ปรับขึ้น 6% ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากดัชนีกลุ่ม PF&REIT ที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 4% ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และทนทานต่อความผันผวนของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เรายังมองว่ากอง REIT เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งด้านผลตอบแทนปันผลที่สูงเฉลี่ย 6% และมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนี้ 1) ทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยมีแนวโน้มชะลอตัว จากปัจจัยสงครามการค้า อ้างอิงจากธนาคารโลก (World Bank) ที่ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2019 ลงเหลือ 2.6% จากเดิม 2.9% และปี 2020 เหลือ 2.7% จาก 2.8% รวมถึงกนง.ที่ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยเช่นกัน โดยปี 2019 คาดการเติบโตลดลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.8% และปี 2020 เป็น 3.7% จาก 3.9% 2) ตัวเลขเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุด กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติ 9-1 เสียงในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% 3) ความไม่แน่นอนของกรอบเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
อ่านเพิ่มเติม
04
มิถุนายน
2019
07
พฤษภาคม
2019
Reit Focus : May 2019
(views 532)
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากการเมืองในประเทศที่ต้องติดตามผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และการวินิจฉัยสูตรคำนวน Party List ของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ ทั้งนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่ผู้แทนการค้าสหรัฐ ยืนยันว่าสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ในวันศุกร์นี้ รวมถึงสถานการณ์ Brexit และการเมืองในกลุ่มประเทศยูโรที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งประเด็นทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้กอง REIT มีความน่าสนใจ จากความผันผวนด้านราคาค่อนข้างต่ำ พร้อมมีผลตอบแทนปันผลสูง
อ่านเพิ่มเติม
04
กุมภาพันธ์
2019
05
พฤศจิกายน
2018
Reit Focus : November 2018
(views 704)
ท่ามกลางภาวะผันผวนของตลาดหุ้น ตามการเคลื่อนไหวของปัจจัยต่างประเทศ ทำให้การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงมากขึ้น การกระจายการลงทุนมาในกอง REIT นับว่าเป็นทางเลือกเพื่อลดความผันผวนจากผลตอบแทนในระยะสั้น ประกอบกับสามารถสร้างกระแสเงินสดรับจากเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับการเลือกลงทุนในกอง REIT ควรพิจารณาถึง 3 ด้าน 1) ศักยภาพในการสร้างรายได้ของสินทรัพย์ 2) อัตราการจ่ายปันผล 3) สภาพคล่องการซื้อขาย ซึ่งกองทุนที่เราแนะนำในเดือนพ.ย. 2018 ยังเป็น EGATIF, QHPF, DIF, WHART และ BTSGIF ซึ่งมีสินทรัพย์ที่มีโอกาสปรับขึ้นอัตราค่าเช่า ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ ยังมีสภาพคล่องในการซื้อขายในระดับที่มากกว่า 2 ล้านบาทต่อวัน, ปันผลที่มากกว่า 6% ต่อปี และราคายังไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับ NAV
อ่านเพิ่มเติม
01
ตุลาคม
2018
Reit Focus : October 2018
(views 964)
การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยตอนปลายปีนี้ อาจเป็นแรงกดดันให้ความน่าสนใจของสินทรัพย์ทางเลือกในกลุ่ม REIT ลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม อัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยของกองทุน REIT ในไทยอยู่ในระดับสูงราว 6% ต่อปี ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่เฉลี่ย 2.8% ต่อปี ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนการลงทุนยังน่าสนใจ สำหรับกองทุนที่เราแนะนำในเดือนต.ค. 2018 ได้แก่ EGATIF, QHPF, DIF, WHART และ BTSGIF ซึ่งมีสินทรัพย์ที่มีโอกาสปรับขึ้นอัตราค่าเช่า ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ ยังมีสภาพคล่องในการซื้อขายในระดับที่มากกว่า 2 ล้านบาทต่อวัน, ปันผลที่มากกว่า 6% ต่อปี และราคายังไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับ NAV
อ่านเพิ่มเติม
01
มิถุนายน
2018
02
พฤษภาคม
2018